
ผมมีโอกาสเดินทางขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิหลายครั้ง แต่ก็ไม่ยักกะเห็นลูกเรือการบินไทยเดินไปมาในสนามบินเหมือนสายการบินอื่นๆ บ้างเลย มารู้ทีหลังว่า พนักงานมีเส้นทางมาที่เครื่องบินต่างจากสายการบินอื่น คือไม่ได้มาส่งที่ชั้นสี่แล้วเดินไปที่เครื่องเหมือนสายการบินอื่นๆ นั่นเอง แต่ก็ไม่ยากเกินความพยายาม ที่จะคว้ามือสาวงามแห่งการบินไทยมาสัมภาษณ์กัน ซึ่งที่นี่ก็เป็นสายการบินในฝันของคนอยากติดปีกลำดับหนึ่งของไทย มาทุกยุคทุกสมัย
ผมจำได้ว่า เมื่อประมาณ 23 ปีก่อน (ปัจจุบัน 2013) คุณยายอ่านหนังสือพิมพ์ออกเสียง ซึ่งผมยังจำได้ติดหูทุกวันนี้ว่า "คนหนุ่มสาว แห่สมัครนางฟ้า สจ๊วตการบินไทย 5,000 คน" โห เชื่อเลยว่างานนี้น่าสนุกจริงๆ มีคนแห่สมัครกันเยอะจะสนุกอย่างไร ไปคุยกับแอร์สาวคนนี้กันครับ
Q. สวัสดีครับ 'น้องเต๋า' อยากรู้ว่าน้องเต๋าเริ่มงานกับการบินไทยมานานหรือยังครับ

เต๋า : เริ่มงานกับการบินไทยปี 2012 ค่ะ ตอนนี้ก็ครบ 1 ปีแล้วค่ะ

Q. เต๋ามีความฝันอยากเป็นแอร์ตั้งแต่เด็กๆ ไหม ประเภทว่า ครูถาม "ใครอยากเป็นแอร์โฮสเตส ยกมือขึ้น?"

เต๋า : ไม่เลยค่ะ ตอนเด็กๆ อยากเป็นหมอมากกว่า แต่หัวไม่ไปเลย วิทย์-คณิตเนี่ย (หัวเราะดังมาก) เริ่มอยากจะเป็นแอร์จริงจังก็ตอนที่ทำกราวด์ที่สายการบินแห่งหนึ่งค่ะ เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสงานสายการบิน เห็นพี่แอร์หลายคนเวลาเราทำงาน พี่เค้าสวย หุ่นดี เดินลากกระเป๋ามาเริ่ดๆ เลยอยากเป็นบ้างค่ะ
Q. ได้ยินว่าเต๋าอกหักจากรอบสุดท้ายจากสายการบินแห่งหนึ่ง ตอนที่ได้ข่าวประกาศรับสมัครพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของการบินไทย ตอนนั้นคิดจะสมัครอีกรอบไหมครับ
เต๋า : คิดค่ะ เพราะการบินไทย น๊าน นานจะมาเปิดที อายุก็จะเกินแล้ว ถือว่าไปลองเป็นประสบการณ์ จริงๆ ไม่คิดว่าจะได้เลย เพราะรู้ว่าที่นี่เข้ายากมาก สมัครหลายขั้นตอน แถมตอนที่สมัครมีสอบ appitude test คล้ายข้อสอบของนักบินด้วย และก็รู้ๆ กันอยู่ ว่าที่นี่มีแต่คนเก่ง มากความสามารถมาสมัคร

Q. ขั้นตอนรับสมัครแอร์การบินไทยนี่ ได้ข่าวว่าต้องอดทนมาก เพราะคนเข้าสมัครเยอะมาก เต๋ากังวลกับขั้นตอนไหนที่สุดครับ และด่านไหนโหด หินที่สุดสำหรับเรา
เต๋า : คิดว่าเป็นสัมภาษณ์รอบสุดท้ายนะคะ เพราะเราต้องเข้าไปสัมภาษณ์กับกรรมการพร้อมกัน 3 คน กดดันมากค่ะ เพราะในแต่ละคนจะโดนถามคำถามเดียวกัน แต่ต้องตอบให้ได้ดีที่สุด แล้วหลังจากนั้นก็ต้องทำกรุ๊ป ช่วยกันแก้ปัญหาที่กรรมการให้โจทย์มา
ที่รู้สึกว่าหินที่สุดเพราะรู้สึกว่าตื่นเต้นมาก จนทำให้ตอบคำถามได้ไม่ดีเท่าที่ควรค่ะ แต่ได้ข่าวว่า รุ่น 2013 เค้าสัมภาษณ์ทีละคนนะคะ แต่ละรุ่นนี่ ไม่ค่อยเหมือนกันเลย ต้องเตรียมตัวให้ดีจริงๆ
Q. ทำงานที่การบินไทย มีความสนุกกับงานอย่างไรครับ
เต๋า : สนุกตรงที่ได้ไปเที่ยวหลายๆ ที่ ถึงแม้ในไฟลท์จะทำงานเหนื่่อย แต่พอได้ทานอาหารอร่อยๆ ไปเที่ยวในที่เราไม่เคยไป มันก็หายเหนื่อยค่ะ
อีกอย่าง ทำงานในการบินไทย บรรยากาศการทำงานสนุกเพราะมีแต่พี่ๆน้องๆ ทุกคนเป็นกันเองมากค่ะ

Q.เห็นลูกเรือที่นี่มีศัพท์เฉพาะ เรียกกันแปลก ไม่คุ้นหูคนทั่วไป
เต๋าช่วยเล่าหน่อยครับ ว่ารู้จักคำไหนบ้าง
เต๋า : ดมหมอน ก็เป็นศัพท์ที่เรียกเวลาได้ไฟลท์ที่ได้ไปค้างแป๊ปเดียว เช่น อาจจะบินลง 21:00 เช้าเวคอัพ 06:00 แบบนี้น่ะค่ะ
ส่วน รอบเตียง ก็จะเป็นไฟลท์ที่ได้ไปค้างเต็มวัน24ชม.ค่ะ เท่ากับว่าได้ค้าง1คืน มีเวลาเที่ยวนิดหน่อย
ส่วน ขีด ก็จะเป็นไฟลท์ที่ได้อยู่นานหน่อย 1ขีด ก็เท่ากับค้าง 2 คืน 2 ขีดก็มีนะคะ ได้ค้าง 3 คืน นานมากๆ สามารถพาครอบครัวไปเที่ยวด้วยได้เลย อีกอย่างเบี้ยเลี้ยงไฟลท์ขีด ก็ย่อมได้มากกว่าไฟลท์รอบเตียงหรือดมหมอนค่ะ
Q. ได้บิน ได้ไปเที่ยวด้วยรู้สึกคุ้มไหมครับ กับการมาเป็นแอร์
เต๋า : มันก็เป็นหน้าที่อยู่แล้วค่ะ ทุกครั้งที่เราได้ไปเที่ยว เราก็ไปทำงานในเวลาเดียวกัน ทำให้เรามีกำลังใจในการทำงานมากขึ้นนะ โดยส่วนตัวแล้วก็คิดว่าคุ้มค่ามากๆ เลยค่ะ
Q. แล้วอย่างบินไปที่เกาหลี หรือญึ่ปุ่นน้องเต๋าไปทำอะไรบ้าง
เต๋า : ทุกครั้งที่ไปก็จะไปหาอาหารอร่อยๆทาน เดินเล่นในเมือง ชอปปิ้งนิดหน่อยค่ะ ซึ่งลูกเรือแต่ละคนก็มีกิจกรรมที่ไม่ค่่อยเหมือนกัน พี่ซีเนียร์ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยออกไปไหน พวกเด็กๆ อย่างเรามักจะออกไปเที่ยวเล่นกันเป็นกลุ่มๆ ค่ะ
Q. มีที่ไหนที่ไปมา แล้วมีเรื่องเล่าหรือคำเตือนจากลูกเรือรุ่นพี่บ้างไหมครับ
เต๋า : จากประสบการณ์ของตัวเองยังไม่เคยเจอเลยค่ะ แต่ได้ยินพวกพี่ๆ เล่า เวลาที่ไปบินยุโรป จะโดนล้วงกระเป๋าบ่อยมาก ขนาดว่าพี่ๆ ระวังตัวกันดีแล้วก็ยังโดน แล้วพวกนี้ทำกันเป็นขบวนการเลยค่ะ ส่วนประเทศในแถบเอเชีย เกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ออสเตรเลีย สบายใจได้เดินเที่ยวได้ไม่ต้องระวังของเลยค่ะ
Q. ที่ไหนที่ไปแล้วไม่เคยเบื่อ เพราะอะไรครับ

เต๋า : ญี่ปุ่นค่ะ ที่ชอบก็เพราะผู้โดยสารน่ารัก เวลาเราไปเที่ยวหรือทานอาหารพนักงานก็บริการดีมากๆ เวลาต้องการความช่วยเหลืออะไรคนญี่ปุ่นเค้าก็เต็มใจที่จะช่วยเหลือเต็มที่ ถึงแม้บางครั้งจะสื่่อสารกันไม่ค่อยรู้เรื่องก็เถอะ แล้วก็ไม่ต้องกังวลเรื่องขโมยขโจร เพราะคนญี่ปุ่นขึ้นชื่่อเรื่องความซื่อสัตย์มากๆ ค่ะ
Q. เต๋าคิดว่า เป็นแอร์โฮสเตส งานหนักตรงไหนบ้างครับ หรือกดดันในเรื่องอะไรบ้าง
เต๋า : ในเรื่องของการทำงานนี่ไม่หนักเลยค่ะ เพราะในไฟลท์ทุกคนจะช่วยกันทำงาน แต่อาจจะเป็นเรื่องของการปรับเวลานอนมากกว่า เพราะการที่เราเดินทางหลายประเทศเวลาจะต่างกัน ถ้าเราเป็นคนนอนยาก หรือนอนไม่ค่อยหลับ เราจะไม่มีแรงทำงานเลย ส่งผลถึงพลังทำงานในไฟลท์นั้นอาจจะลดลงได้บ้าง
Q.มีเรื่องเล่าที่ประทับใจในไฟลท์บ้างไหมครับ
ก็ประทับใจทุกไฟลท์นะคะ การเป็นคนให้บริการ ได้เห็นผู้โดยสารกินอิ่ม นอนหลับ เดินทางถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ ได้เห็นรอยยิ้ม และได้รับคำขอบคุณจากผู้โดยสารก็มีความสุขแล้วค่ะ
ขอขอบคุณน้องเต๋ามากครับ ที่มาเล่าประสบการณ์สนุกๆ ให้เพือน น้องๆ ที่อยากทำงานตรงนี้ได้ฟัง เพื่อเป็นแรงบันดาลใจตามฝัน......กันต่อไปครับ ขอให้น้องเต๋าสนุกกับงานที่ทำตรงนี้ และก้าวหน้าในอาชีพต่อไปนะครับ

สำหรับตอนนี้ สวัสดีครับ......








No comments:
Post a Comment