การได้ไปทำงานเป็นลูกเรือที่เมืองนอกเมืองนา ย่อมเป็นความฝันของหลายๆ คน เพราะฝันอย่างหนึ่งคือ การได้เปิดโลกออกไปสู่โลกที่กว้างกว่า และบางคนอาจจะคิดว่า "ขั้นตอนการคัดเลือกลูกเรือ" ของสายการบินต่างประเทศไม่ได้เน้นที่หน้าตาที่ "หล่อหรือสวยทุกกระเบียดนิ้ว" เหมือนกับสายการบินในประเทศไทย ดังนั้นโอกาสที่จะได้รับการคัดเลือกเข้าทำงาน สำหรับคนหน้าตาธรรมด๊า ธรรมดาอย่างเรา จึงจะมีสูงมากขึ้นนั่นเอง และหลายคนก็ได้ตามฝันนั้นสำเร็จ

แน่นอนว่าวันนี้ ผมจะพาทุกท่านโกอินเตอร์ ไปรู้จักกับลูกเรือไทย ที่ได้ทำงานกับสายการบินต่างประเทศ ที่ชื่อว่า "แอร์เอเชียเอ็กซ์" อ้าว!! ทำไมมี X มาต่อท้ายด้วยละ? แล้วชื่อแอร์เอเชียก็คุ้นเคย แล้วดูอินเตอร์อย่างไรกัน? ผมจะบอกว่าคนนี้ไม่ธรรมดาครับ เขาจะตอบคำถามนี้ได้ ไปคุยกับเขาเลยครับ
Q. สวัสดีครับ คุณเท็ดดี้ เพื่อนๆ อยากรู้จักกันแล้วละครับ เชิญแนะนำตัวพอให้รู้จักกันหน่อยว่าเป็นใคร มาจากไหน กว่าจะมาอยู่จุดนี้ ได้ทำแอร์ไลน์อะไรมาบ้างครับ?
เพื่อนที่ไหน ก็มีแต่พี่แอดมินคนเดียวนั่นแหละ เหอะ ๆ (ขำแต่ทำตาดุุ) ทำซะเป็นรายการคุณวิทวัสครับ ผมชื่อหมี เรียกว่า เท็ดดี้ ก็ได้นะครับ กว่าจะมาอยููู่สายการบินนี้ก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรค์มากมายเลยแหละ เพราะตอนที่ผมจบมาประมาณปี 2007 หลังจากฝึกงานกับสายการบินออสเตรียนแอร์ไลนส์เกือบจบก็ได้เข้าทำงานที่ BFS แฮนลิ่งให้เอมิเรตส์ 4 เดือนครับ และก็สอบเป็นสจ๊วตรุ่นแรกของสายการบินเปิดใหม่ ชื่อสายการบินทางภาคใต้ของเรา แล้วคิดเหรอจะไปรอด เพราะปีนั้น 2007-8 หลายสายการบินปิดเบส ปิดตัวกันระนาว ก็ไปเทรนแต่เครื่องไม่มีบิน เสียเวลาไป 4 เดือน ก็เลยมาทำงานเป็น กราวน์ซุปเปอร์ไวเซอร์ให้สายการบินหนึ่งของไทยแต่สายเลือดเกาหลี ปัจจุบันปิดตัวไปแล้ว ทำได้ 4 เดือน
ตอนนั้นพอดีโชคดีมาก ไปทานอาหารที่โรงแรม เลอเมอลิเดียนกับนายเกาหลี แต่นายมีธุระด่วน ทิ้งเราให้กินข้าวคนเดียว แล้วมีการรับสมัครรอบแรกของบริษัท ไทยแลนด์อีลิท ในตำแหน่ง Airport Pesonal Assistance ถ้าใครรู้จักบริษัทนี้จะรู้ว่า ทำงานสบายมากและเงินได้เยอะมาก แถมเป็นรัฐวิสาหกิจ 100% ด้วยความที่มันหรูมากๆ และ คนที่ไปหล่อกว่าผมเยอะมาก สวย ๆ ก็เยอะ เลยไม่ได้สนใจ แต่ตอนทานข้าวไปก็ถามตัวเองว่า ไม่ลองไม่รู้ คนอื่นเค้าหอบสังขารมาจากที่ไหนก็ไม่รู้แต่เราเนี่ยมานั่งทานข้าว และไหน ๆ ก็ไปทำบุญตักบาตรเมื่อเช้า ลองดูหน่อยก็ดีว่า บุญที่ทำเมื่อเช้ามันจะส่งผลอะไรรึปล่าว เช็ดปาก วางช้อนส้อม ถอดป้ายพนักงาน ถอดแอร์พอตพาส ไปสมัครกรอกใบสมัครเอกสารไม่มี ไม่เป็นไร ไป business center ของโรมแรม ปริ้นออกมาเลย รูปในกระเป๋าตังค์ สัมภาษณ์ แล้วก็ได้ในอีก 2 อาทิตย์ต่อมา ขณะนั้นโชคดีซ้ำ เพราะไปกินบาบีคิวพลาซ่าที่เซ็นทรัลลาดพร้าว แล้วเห็นคนแต่งตัวสวยมากมาย เลยไปแอบถาม เค้าบอกว่าแอร์เอเชียรับสมัครลูกเรือ เบส กัวลาลัมเปอร์ ก็เลยไปพรีสกรีนวันแรกก่อน และวันที่ 2 ก็สัมภาษณ์ไฟนอลเลย และ ระหว่างนั้น สายการบินเลือดเกาหลีของผมหยุดบิน และไม่จ่ายเงินเดือน ก็เลยไม่ไปทำงาน แล้วไทยแลนด์อีลิทประกาศผล พร้อมเชิญไปเทรน ผมก็ไปเทรนกะอีลิท พอเทรนวันสองวัน แอร์เอเชียประกาศ เฮ้ย ผมก็ได้ ก็เลยไปตรวจร่างกาย แล้วเอาแอร์เอเชียเลยครับ และพอวันที่จะเซ้นต์สัญญากับแอร์เอเชีย มีคนไปปิดสนามบินสุวรรณภูมิ กรี๊ด คนที่ถือเอกสารมาเซ้นต์สัญญามามิได้ เลื่อนเซ็นต์สัญญาไปอีก ไปเทรนช้าอีกหนึ่งเดือนกว่า ๆ เลยครับ รวมไปมา หลังจากสมัครจนเข้าไปทำงาน 4เดือนอีกเช่นกัน ชีวิตอุปสรรค์เยอะเวอร์ในตอนนั้น
Q. แอร์เอเชียเอ็กซ์คือสายการบินที่ต่างกับแอร์เอเชียอย่างไรครับ?
คอนเซ็ปแอร์เอเชีย คือ จะบินในเส้นทางภูมิภาค โลวคอส ไฟล์ไทม์ไม่เกิน 4.30 ชั่วโมง ทำไปกลับและใช้เวลาจอดมากที่สุดก็ 30 นาที ไม่มีการเปลี่ยนเซ็ทลูกเรือลงนอนตามสเตชั่น นอกจากเป็นการ posting ตามฮับต่างจังหวัด แต่แอร์เอเชีย เอ็กซ์ Airasia X (X = extra long haul) คนเซ็ป โลวคอสบินไกล ข้ามทวีป มีการเปลี่ยนเซ็ทลูกเรือลงนอนตามสเตชั่นครับ แต่เราไม่ถือเป็นครอบครัวเดียวกับ Airasia ครับ เราถือเป็นลูกพี่ลูกน้องมากกว่า เพราะ Malaysia Airasia, Thai Airasia, Indonsia Airasia, Philippines Airasia, Japan Airaisa เค้ามีหุ้นแอร์เอเชียครึ่งต่อครึ่ง มากน้อยตามกฎหมายประเทศนั้น ๆ เค้าถือว่าเป็นคนในสายเลือดเดียวกันครับ เราเป็นญาติห่าง ๆ เพราะ ผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่ใช่ แอร์เอเชียกรุ๊ปเหมือน สายการบินที่กล่าวมา แต่เป็น Aero Ventures 48% Virgin Group 16% AirAsia16% Orix Corp 20%แต่พนักงานสามารถใช้ตั๋วได้ทุกเส้นทาง แบบไม่จำกัด และยังมีกิจกรรมร่วมกัน **
Q. มาทำงานเมืองนอกนี่ (มาเลย์เซีย) คิดถึงบ้านบ้างหรือเปล่า?
แรก ๆ ก็คิดถึงครับ ไม่คิดถึงบ้านเท่าไหร่เพราะไม่ติดบ้านตั้งแต่เด็ก ชอบไปเที่ยวมากกว่า แต่คิดถึง กรุงเทพฯ ครับ ด้วยความที่ กรุงเทพเนี่ย มันเพอร์เฟคไปหมด ไม่ว่าจะด้านใด ๆ มีอาหารทุก ๆ ถนน ทุกซอย ตลอด 24 ชั่วโมง เซเว่นหลากหลายสาขา ว่างเมื่อไหร่ก็แวะมา นวดก็ถูก ไนท์ไลฟ์ก็สุดยอด ประชากรถือว่ามีมารยาทพอประมาณ ถ้ามันดีเวอร์เหมือนนิวซีแลนด์มันก็ไม่สนุกหน่ะสิ ห้างก็มีทุกหนทุกแห่ง มนต์เสนห์แห่งรถติด ให้เราได้ใช้เวลาอยู่กับครอบคัวได้มากขึ้น ผลไม้เปรี้ยวหวานหั่นแล้ว มีทุกหนทุกแห่ง เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ แต่เมืองนอกแบบมาเลเซียเนี่ย มันไม่ได้ครึ่งของ กทม เลย บวกกับประเทศนี้รีจิสเตอร์ตัวเองว่าเป็นประเทศมุสลิม ซึ่งกฎหมายเยอะ หลายสิ่ง ซึ่งต่างจากเมืองไทย ซึ่งเป็นประเทศเสรีครับ ความสะดวกในการใช้ชีวิตมันต่างกัน
Q. ปรับตัวยากไหมกับผู้คน วัฒนธรรม อาหาร ที่ไม่เหมือนเมืองไทย?
Q. ฝากแนะนำคนที่จะมาอยู่ หรือทำงานแบบหมีได้ จะต้องเตรียมตัวเจอกับอะไร อย่างไรบ้างครับ?
Q. คุ้มไหมกับการต้องจากเมืองไทย มาทำงานที่ต่างประเทศ และได้เรียนรู้อะไรบ้างครับ?
สำหรับผมคุ้มเว่อร์พี่ ขนาดลูกเรือเจ้าถิ่นเองนะ ยังมาบอกเลยว่า สุดยอด แล้วชอบเอาเราไปเป็นตัวอย่างให้กับลุกเรือต่างชาติ หลาย ๆ ชาติว่า learn from teddy how to survive or enjoy your life บอกตรง ๆ ว่าเค้าไม่ค่อยชอบชมเราตรง ๆ นะพี่ลูกเรือที่นี่ แต่จะชมลับหลัง ซึ่งเถ้า ด่า อีก ก็จะมีทั้งด่าตรง ๆ และลับหลัง ไม่รู้คนไทยเป็นมั้ยนะ หรือเป็นซะทุกที่ ส่วนเรื่องบินไปเที่ยวไป ผมก็ถือว่า บริษัทออกค่าโรงแรมกับค่าตั๋วให้ แถมให้เงินมากินข้าว เราก็เอาซะหน่อย เกิดครั้งเดียว ตายครั้งเดียว ตอนเด็ก ๆ มีเวลาแต่ไม่มีตังค์ ตอนโตมา มีเวลา ตังค์ก็มีบ้างต้องหั่นใช่จ่ายอย่างระมัดระวัง แต่ถ้าเที่ยวมากก็ไม่มีตังค์ แต่พอแก่ตัวมามีตังค์ มีเวลา แต่ไม่มีแรง แถมบางคนอยู่ไม่ถึงแก่ก็มี ไหน ๆ สายการบินให้ลงนอนต่างสเตชั่นก็จะชอบออกไปเที่ยวโน่นนี่ ไปตามต่างจังหวัด เช่นไป โอซาก้า ผมก็จะไป เกียวโต นาระ โกเบ โคโยซาน ถ้าไป เมลเบริ์น ก็ไป เดลฟอร์ด เกรตโอเชี่ยนโรด์ เกาะฟิลิปปส์ ขึ้นภูเขา ลงห้วย ถ้าไปไคสช์เชริส ก็ชอบเช่ารถขับออกไปทางเกาะใต้ เสียดายยังไม่ได้ไปเกาะเหนือครับ แต่ที่ไกลสุดก็คือ ตอนบินไปปารีสแล้วนั่งรถไฟไปเที่ยวสวิสเซอร์แลนด์ครับ แต่ถ้าถามว่าเรียนรู้อะไรจากงาน เรียนรู้การทำงานกะคนหมู่มาก เพื่อนร่วมงานในตำแหน่งเดียวกันแต่การศึกษาอาจจะต่ำกว่า เรียนรู้การทำงานกับคนหลากหลายเชื้อชาติ เรียนรู้การทำงานกับคนหลายแบบหลายไสต์ การวางตัวหากเราต่างจากคนอื่นเค้า เรียนรู้การอยู่ภายใต้สัญญาจากปลายปากกาของเรา เรียนรู้การปรับตัวให้อยู่รอด แมลงตัวมันเล็กรอดมาได้หลายล้านปี ต่างจากไดโนเสาร์ที่ พาวเวอร์ฟูลมาก ๆ แต่ดันตายซะหมด
Q. อยู่ที่นี่ต้องเรียนภาษามาลายูเพื่อทำงานด้วยไหมครับ?
ไม่ต้องก็ได้ครับ ไม่จำเป็น เพราะลูกเรือต่างชาติเยอะ และผู้โดยสารต่างชาติก็เยอะ และที่สำคัญ คนมาเลเชี่ยน พูดภาษาอังกฤษได้แทบทุกคน ยกเว้นคนแก่ ๆ ที่ไม่ได้เรียนหนังสือครับ เพราะที่นี่ ไปไหนก็เจอแต่ป้ายภาษาอัวกฤษ แต่ถ้าพูดได้ก็จะได้ เพราะจะได้รู้ว่าเค้าเม๊าท์อะไรเรา ตอนที่ผมมาที่นี่ ภาษามลายูกับจีน เป็น ศูนย์ แต่พอบินมาติ๊งต่องติ๊งต่อง 4 ปี ปัจจุบันสามารถทำประกาศบนเครื่องภาษามลายูคล่อง ส่วนแมนดาริน คนจีนบอกว่า สำเนียงเหมือนคนกวางสี ( อยุ่ตรงไหน วันหลังจะไปเผื่อเจอบรรพบุรุษ )
Q. ในวันหยุดชอบไปเที่ยวพักผ่อนที่ไหนในกัวลาลัมเปอร์ครับ?
พี่แอดมิน วันหยุดผมไปเที่ยวต่างประเทศตลอดครับ มาเลเซีย นาน ๆ เที่ยวที คือเที่ยวตอนวันที่ ต้องต่อวีซ่า พาสปอร์ตไม่อยู่กับตัว เคยไปปีนัง (เมืองนี้คนจีนตัวใหญ่สูง) ลังกาวี อีโป้ (เมืองนี้คนจีนหน้าตาผิวพรรณดีที่สุดในมาเลเซีย) ไปมะละกา เมืองท่าค้าขายโปรตุเกสในอดีต อาหารน่ากินเยอะครับ โคตาคินาบาลู อาหารทะเล มาเมืองเดียวได้ทั้งภูเขาและทะเล คูชิงเมืองนี้ประวัติศาสตร์มากมาย มาแล้วรู้สึกเหมือนติมอร์ ปาปัวนิวกินี ยังไงอย่างงั้น ผมว่าง ๆ ก็ไปเที่ยวนครวัต เพราะมีไฟล์ทตรงจากแคแอล ไปลาว เวียงจันทน์ หลวงพระบาง ชิว ๆ นั่งไฟล์ทเช้า กลับไฟล์ทเย็น ไป กินเฝอแมว ก๋วยเตี๋ยวหอยทาก ลอดช่อง ที่โฮจิมินต์ซิตี้ 555 (หลัง ๆ กินที่เพริ์ธ ออสเตรเลีย ตอนลงนอนออนดิวตี้ เลยไม่ต้องลากสังขารไปเวียดนาม เพราะย้ายโรงแรมมาอยู่แถวไชน่าทาวน์) ไปเดินเล่นเมืองเก่าที่ ฮอยอัน ชิวได้อีก บินตรงเข้าดานังได้เลย หรือจะไปคาสิโนที่มาเก๊า เดินเล่น แต่ชอบไปกวางเจาครับ เมืองทันสมัยดี ไฮเทค อาหารกวางตุ้งแท้ ๆ ที่ราคานี้ ที่ฮ่องกง ไม่มี๊ไม่มี รวมถึงเสื้อกันหนาวแสนถูกเผื่อเอาไว้ไปบินหน้าหนาวที่ปักกิ่งกับอินชอน เพราะสองเมืองนี้หนาวสุด ๆ และบางทีทำชาร์เตอร์เข้าฮาร์บินหน้าหนาว เสื้อกันหนาวกี่ตัวก็เอาไม่อยู่
ฝั่งอินโดนีเซีย ไปสุราบายา ไปปีนภูเขาไฟโบรโม่ ไปบาหลี ไฟล์ทถี่มาก น่าจะ 4 ไฟล์ทต่อวัน ไปกินสตอเบอร์รี่กับช๊อปปิ้งที่บันดุง เมืองนี้ช๊อปปิ้งมันมากก ไปกินอาหารทะเลที่บันดะอาเจห์ ซึ่งจะมีเกาะเกาะหนึ่ง ธรรมชาติยังไม่โดนทำลายเลย ไฟก็ไม่มี ฝรั่งชอบไปดำดูปากการัง ปูกิโลละ 100 บาท แต่ ไม่ศิวิลัย จะหาปูผัดพริกไทยดำเนี่ย ไม่มีครับ มีแต่จับปูดิ้น ๆ ลงไปในน้ำเดือด แล้วแทะกินกัน น้ำก็กิน น้ำมะพร้าวจากมะพร้าวสีเหลือง ประทับใจมากครับ หรือถ้าไม่รู้จะไปไหนก็กลับ กรุงเทพบ้าง บินตรงเข้าเชียงใหม่บ้าง ภูเก็ตบ้าง หาดใหญ่บ้าง เรียกว่าเปลี่ยนบรรยากาศ สุด ๆ ตอนนี้มีไฟล์ทตรงเข้า สุราษฯ เดี๋ยวกะจะลองนั่งดู
Q. โอ้โห พูดง่ายๆ ว่าไปย่ำในภาคพื้นนี้มาเกือบหมดแล้วเลยทีเดียว อาจจะตรงกับที่พี่ได้ยินมาไหมว่า สายการบินในคอนเซ็ปโลว์คอสนี่ ใช้งานลูกเรือหนัก จริงหรือไม่ อย่างไรครับ?
Q. ในช่วงที่บิน ตอนไปหยุดพักค้างที่ต่างประเทศไปทำไรบ้าง ไปกับเพื่อนๆ สไตล์ไหน หรือได้เที่ยว-พักผ่อนกันอย่างไร?
ว่าจะไม่เม๊าท์เพื่อนลูกเรือตัวเองแล้วนะพี่ ก็มีหลายสไตล์เลยครับ เริ่มจาก
'Mother with infant' กลุ่มนี้จะเป็นผีเฝ้า crew lounge ใช้อินเตอร์เนตถ่ายทอดสดลูกตัวเอง เม๊าท์วิธีเลี้ยงลูก พกรูปลูกไปบิน ช๊อปปิ้งสินค้าเด็ก ๆ เหมือนสมัยก่อนตอนบินไปลอนดอน ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน ต้องหอบสังขารไปร้าน หนึ่งปอนด์ ไปซื้อเสื้อผ้าของใช้เด็ก จะว่าไปมันก็ถูกนะ เสื้อหนึ่งปอนด์ สี่สิบบาท ลูกเรือกลุ่มนี้เลิกเที่ยวเลิกกิน ว่างก็ปั้มนม เคยมีลูกเรือฝากนมตัวเองให้ผมเก็บด้วย ปล ลูกเรือกลุ่มนี้ชอบเอาไฟล์ทลงนอนมาให้ลูกเรือโสด หรือ สด แล้วแลกเอาเที่ยวบินไปกลับหรือ ลงพักสั้น ๆ ไปบินแทน
'เด็กติดเกมส์' กลุ่มนี้ ลงเครื่องแล้วทีวีเป็นของผมคนเดียว ชอบขนเกมส์เพลย์สเตชั่น ขนแลปท๊อป พอถึงสเตชั่นออกไปซื้ออาหารเครื่องดื่มตุน เพราะจะอยู่กับเกมส์ทั้งออนไลนส์และออฟไลนส์ จนกว่าจะบินกลับ กลุ่มนี้ใช้โรงแรมคุ้มมาก เปิดแอร์ ทั้งวันทั้งคืน ค่าโรงแรมหนึ่งหมื่น ใช้ไฟไปสองหมื่น ยิ่งถ้ามีเด็กติดเกมส์มากกว่าหนึ่ง ไฟล์ทนั้นจะเป็นไฟล์ทสวรรค์ของพวกเขา ลูกเรือกลุ่มนี้ชอบบินไป สเตชั่นที่มีห้องนอนและห้องนั่งเล่นแยก กัน เพื่อความสนุกสนาน
'กลุ่ม drinking expert' กลุ่มนี้ จับกลุ่มดื่มอย่างสนุกสนาน และชอบเที่ยวกลางคืน กลุ่มนี้หลับสบายไม่สนใจว่าโรงแรมจะเป็นยังไงขอให้ได้ดื่ม เริ่มยักคิ้วหลิ่วตาตั้งแต่บนเครื่อง ชวนคนให้ได้มากที่สุดเพื่อ จะได้มีตัวหารเยอะ ๆ
'กลุ่มท่องโลก' กลุ่มนี้โรงแรมเป็นแค่ที่ซุกหัวนอน นอนน้อยเที่ยวมาก ไม่สนใจว่าจะต้องจ่ายเพิ่มให้ลูกเรือที่มีไฟล์ทลงนอนยาว เพื่อแลกให้มีเวลาเที่ยวเยอะ ๆ บนเครื่องจะเอาหนังสือท่องเที่ยวมาอ่านในเวลาว่าง มีโน้ตว่าไปไหนมาไหนอะไรยังไง รถไฟออกกี่โมง รู้ไปหมด เวลาต้องแบบทหาร 10.05 แตกต่างแน่นอน 10.06 ช้าเพียงหนึ่งนาที พวกนี้ไม่รอเลย เพราะมีโอกาสตกรถตกเรือแล้วอาจจะต้องรออีกไม่รู้นานเท่าไหร่ เปอร์เดี้ยมแทบใม่เหลือ เที่ยวทุกที่ไม่ซ้ำ กลับไปที่บ้านหลับเป็นตาย กลุ่มนี้มักจะโสด
'กลุ่มแม่ค้า' อันนี้ไม่ขอพูด แต่กระเป๋าอย่างกับขน A330 อีกลำ สังเกตได้ บนเครื่องพวกชีจะเอาลิสต์มาไฟนอลลิตส์ กลุ่มนี้แลกตังค์พร้อม อยากรู้ว่าจะซื้ออะไรฝากแฟน ให้ถามกลุ่มนี้ พวกชีสามารถบอกได้เลยว่า พอร์ตนี้ร้านนี้ ลูกเรือลดเท่านี้ จำได้ดีกว่า safety manual ซะอีก
'กลุ่มตำนานรักดอกเหมย' กลุ่มนี้ไอแพด เต็มไปด้วยละคร โหลดซะเต็ม ชอบบินไปสเตชั่นที่มีอินเตอร์เนตในห้อง จะได้ดูสด ๆ ได้เลย กลุ่มนี้จะเป็นมิตรกับรูมเซอร์วิสเป็นอย่างมาก
โอ้โห เราได้เรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์ตรงมากๆ มาเล่าให้กันฟังเลยครับ วันนี้ขอบคุณหมีมากครับที่เป็นแขกรับเชิญให้กับเรา ขอให้สนุกกับการเดินทางนะครับ และหวังว่าจะได้มีประสบการณ์ที่น่าสนุกตื่นเต้นรออยู่อีกมากมายข้างหน้า สำหรับเพื่อนๆ น้องๆ ที่ยังมีฝันอยากโกอินเตอร์ก็ขอให้สำเร็จในเร็ววันครับ ขอกล่าวสวัสดีครับ
**ข้อมูล ณ มกราคม 2013 อาจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง

No comments:
Post a Comment